BumQ 3

Eric HartMann สอยเครื่องบินพันธมิตรตก 353 ลำสถิติโลก

 Eric HartMann
สอยเครื่องบินพันธมิตรตก 353 ลำสถิติโลก
 


















ศึกเวหาเหนือน่านฟ้าเยอรมันในช่วงปี 1943 นั้นถือได้ว่าเป็นการประลองยุธครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างนักบินพันธมิตรและนักบินนาซีเยอรมัน โดยเฉพาะในการรบเหนือน่านฟ้าเมือง "ชไวน์เฟิร์ท" แห่งเดียวก็ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์การรบทางอากาศของโลกเลยทีเดียว มีเครื่องบินรบเขาร่วมสังฆกรรมไม่ต่ำกว่า 500 ลำ ทั้งของเยอรมันและสัมพันธมิตร โดยเฉพาะของอเมริกา การที่พันธมิตรลงมือโจมตีเมืองชไวน์เฟิร์ทในครั้งนี้นับว่าเสี่ยงอย่างร้ายกาจ เพราะด้วยเหตุที่นักบินรบเยอรมันที่อยู่ในระดับหัวกะทิได้มารวมตัวอยู่ในบ้านของตนเองอีกครั้งหลังจากที่ได้ออกสู่แนวหน้ามานาน ฉะนั้นแล้วการต่อต้านทางอากาศของทัพฟ้าเยอรมัน ย่อมจะต้องดุเดือดอย่างไม่ต้องสงสัย

ว่ากันว่านักบินเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือได้ว่าเป็นสุดยอดจัดเป็นนักบินขับไล่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ดูได้จากสถิติการยิงเครื่องบินรบของข้าศึกตกกลางอากาศเบ็ดเสร็จรวมกันแล้วมากกว่านักบินของพันธมิตรรวมกันทั้งหมดเสียอีก


ในการรบที่ชไวน์เฟิร์ทนี้ก็เช่นกัน นักบินเยอรมันนำเครื่องบินแทบทุกชนิดเท่าที่ตนมีอยู่ในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นเก่าอย่าง เมชเชอร์สมิทบี เอฟ109 ไปจนถึงเครื่องเอ็มอี210 ซึ่งอยู่ในขั้นทดสอบประสิทธิภาพก็ยังอุตส่าห์เอาเข้าทำการรบจนได้ ซึ่งทำความเสียหายให้แก่ขบวนเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องขับไล่อเมริกันมากมาย

นักบินเยอรมันที่จัดอยู่ในอันดับแถวหน้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีอยู่ด้วยกันหลายคน แต่บุคคลที่จะยกตัวอย่าง เป็นสุดยอดแห่งเสืออากาศเยอรมัน ผู้ทำสถิติยิงเครื่องบินข้าศึกสูดสุดถึง 353 ลำ และสถิตินี้ถือได้ว่าเป็นสถิติที่สุดที่สุดในโลกตลอดกาลของการรบทางอากาศ เขาผู้นั้นมีนามว่า เอริค ฮาร์ทมานน์

ฮาร์ดมานน์เกิดในชนบทเล็กๆแห่งหนึ่งนามว่า ไว้ส์สัค เมื่อวันที่ 19 เมษายน ปี 1922 บิดาเป็นแพทย์ มารดาเป็นเจ้าของสโมสรการบินเล็กๆ เมื่อตอนเด็กฮาร์ทมานน์ได้มีโอกาสสัมผัสเครื่องบินลำแรกในชีวิตโดยมารดาของเขา ซึ่งขณะนั้นมารดาของเขาเป็นนักบินหญิงที่เก่งกาจ มารดาของเขาจึงชอบพาลูกน้อยติดสอยห้อยตามขึ้นไปกับเครื่องบินอยู่บ่อยๆ นั่นเองจึงทำให้ฮาร์ทมานน์รู้สึกรักและชอบการบินเป็นชีวิตจิตใจ จนเมื่อจบไฮสกูล ฮาร์ทมานน์จึงเข้าสมัครเป็นศิษย์การบินของกองทัพอากาศใหม่ ในขณะที่กองทัพเยอรมันกำลังเข้าบดขยี้กลุ่มประเทศยุโรปในปี 1940

หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักของโรงเรียนการบินลุฟวัฟเฟ่ เขาสำเร็จออกมาบินกับเครื่องเมสเชอร์สมิท BF 109 และเข้าประจำการในแนวหน้ารัสเซียทันที ที่ผ่านมาในช่วงแรกๆของชีวิตการเป็นลูกทัพฟ้าของฮาร์ทมานน์ดูเหมือนว่าจะย่ำแย่เต็มที ทำอะไรก็ผิดหูผิดตาผู้บังคับฝูงไปเสียหมดทุกเรื่อง การเสนอแนวคิดในการรบของเขาที่แปลกออกไปก็ไม่ค่อยจะมีใครยอมรับเสียอีก หนำซ้ำยังถูกกักกันบริเวณเสียอีกหนึ่งอาทิตย์ โทษฐานทำท่าบินผาดโผนโดยไม่ได้รับอนุญาติ แต่นั้นล่ะ เพชรอยู่ที่ไหน ก็คือเพชร ฮาร์ทมานน์เริ่มที่จะพยายามปรับปรุงตัวเองหมั่นฝึกฝนจากนักบินรุ่นพี่ที่มีความสามารถหลายคน แล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับยุทธวิธีของตนเองอย่างกลมกลืน

จนในที่สุดเขาก็สามารถนำยุทธวิธีของตนเข้าห้ำหันข้าศึกจนได้รับชัยชนะเรื่อยมา ยุทธวิธีของเขาคือ พยายามเข้าหาข้าศึกให้ใกล้มากที่สุดโดยที่ข้าศึกไม่ทันรู้ตัว แล้วปล่อยกระสุนออกไปในระยะที่คิดว่าข้าศึกไม่รอดแน่ ในที่สุดแต้มของเขาก็มาถึง 140 เครื่อง เขาจึงได้รับเหรียญกางเขนเหล็ก อันเป็นเหรียญกล้าหาญชั้นอัศวิน ที่ใครๆต่างก็ต้องการมาประดับไว้ จนเมื่อแต้มของเขาพุ่งสูงถึง 300 เครื่อง เขาได้ประดับเพชรที่แถบเหรียญกล้าหาญ อันเป็นอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ตัวฮิตเลอร์มาประดับให้ด้วยตนเอง จนเมื่อเยอรมันพ่ายแพ้แก่พันธมิตรเขาถูกจับเป็นเชลย โดยติดคุกอยู่ในรัสเซีย 10 ปี หลังจากนั้นจึงถูกปล่อยตัวออกมาในปี 1955



ฮาร์ทมานน์ได้เดินทางกลับไปอยู่ในเยอรมันตะวันตกและกลับเข้าร่วมพัฒนากองทัพอากาศตะวันตกยุคใหม่จนถึงปี 1973 เขาก็ได้ลาออกจากกองทัพอากาศแล้วใช้ชีวิตอยู่อย่างสามัญชนกับภรรยาสุดที่รักเออร์ซูล่า อย่างมีความสุขจวบจนกระทั่งปัจจุบัน